Search this blog


Home About Contact
สนับสนุนโดย อ.บุญญลักษม์ ผู้จัดทำ อนุชิต112 สิชล113 พงษ์พัฒน์122 เขตโสภณ138 ศุภสิน141 อังกฤษ167 พิชิต189
วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

ไอซีทีจี้ขยายเน็ตเวิร์ก3จีกทม. เพิ่มยอดใช้เน็ต50%ประชากร  

วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4176 ประชาชาติธุรกิจ


ไอซีทีจี้ขยายเน็ตเวิร์ก3จีกทม. เพิ่มยอดใช้เน็ต50%ประชากร




1 ปี รมว.ไอซีที "ระนองรักษ์" ภูมิใจสุด ๆ แจ้งเกิด 3 จี สั่งเร่งมือเพิ่มสถานีฐานในกรุงเทพฯให้เต็มใน 90 วัน ทั้งมาแปลกให้นโยบาย "ทีโอที" เพิ่มยอดฮัลโหลบ้านอีก 1 ล้านเลขหมาย เจาะตลาดใหม่หลังรายได้เริ่มหดหาย พร้อมเดินหน้าผลักดันให้จำนวนคนใช้อินเทอร์เน็ตในไทยขยับจาก 29% เป็น 50% ในสิ้นปี ขณะที่โจทย์ใหญ่ "เคลียร์ปมสัมปทานมือถือ-ดาวเทียม" ยังไร้อนาคต


ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงการทำงาน 1 ปีที่ผ่านมาว่า หลังผลักดันให้ บมจ. ทีโอทีเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ ระบบ 3 จี ไปแล้วในขณะนี้กำลังเร่งพัฒนาคุณภาพให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ จึงสั่งการให้ทีโอทีเร่งเพิ่มสถานีฐานในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ภายใน 90 วัน โดยเฉพาะบริเวณศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ และตามหน่วยงาน ราชการอื่นทั้งหมด ซึ่งการให้บริการ 3 จี ถือเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจเพราะสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้ก้าวหน้าหนีอันดับบ๊วยของภูมิภาคได้ และเท่ากับกระทรวงไอซีทีได้ทำตามนโยบายของรัฐบาลได้หมด

ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ จะผลักดันให้มีการขยายโครงข่าย 3 จีให้ครอบคลุมทั่วประเทศภายในปี 2555 และในปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มยอดการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ถึง 50% ของประชากรทั้งประเทศ จากปัจจุบันที่มีอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตเพียง 29% เท่านั้น โดยใช้การขยายศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนที่จะเปิดเพิ่มอีก 600 แห่ง กระจายลงไปในทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้กำลังหารือเรื่องสเป็กคอมพิวเตอร์ที่ต้องจัดซื้อ

นอกจากนี้ยังมอบนโยบายให้ทีโอทีขยายโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐานในภูมิภาค โดยตั้งเป้าจะให้เพิ่มอีก 1 ล้านครัวเรือน เพื่อเจาะตลาดใหม่ ๆ หลังรายได้จากโทรศัพท์พื้นฐานในกรุงเทพฯลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องให้ฝ่ายบริหารของทีโอทีประเมินความคุ้มค่าทางธุรกิจอีกครั้ง

ส่วนปัญหาการแก้ไขสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคมทำกับเอกชน ซึ่งคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมอบหมายไว้เมื่อ 16 ธ.ค. 2552 ที่ผ่านมา โดยให้กระทรวงการคลังและกระทรวงไอซีทีดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้เสร็จภายใน 90 วันนั้น ในขณะนี้ตนได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องภายในสังกัดไอซีทีเพื่อให้มีการชี้แจงรายละเอียดการแก้ไขสัญญาสัมปทานมือถือทั้ง 10 ครั้งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2533 จนถึงปัจจุบันว่าได้ทำให้รัฐเสียหายหรือไม่ และการแก้ไขในแต่ละครั้ง ใครเป็นบอร์ดที่อนุมัติให้มีการแก้ไขสัญญาบ้าง เพราะปกติบอร์ดบริษัท ทีโอทีและกสทฯเป็นตัวแทนจากหน่วยงานรัฐ อาทิ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และอัยการ ฯลฯ

"ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค. 2553 จะมีการประชุมระหว่างผู้บริหารภายในไอซีที และนักกฎหมายเพื่อศึกษารายละเอียดของการแก้ไขสัญญาแต่ละครั้ง ทุกวันพุธและวันศุกร์ ก่อนนำข้อสรุปแจ้งกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรี เท่าที่มีการรายงานในขณะนี้ สัญญาที่มีการแก้ไขยังไม่ได้ทำให้รัฐเสียหาย"

รัฐมนตรีไอซีทีกล่าวอีกว่า บอร์ดที่ทำหน้าที่ในขณะที่มีการแก้ไขสัญญาไม่ได้มีการโต้แย้งใด ๆ อาจถือว่าได้ทำผิดหรือเปล่า เพราะทั้งหมดเป็นตัวแทนได้รับแต่งตั้งกระทรวงการคลัง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าปัญหานี้จะมีการแก้ไขอย่างไร และจะได้ข้อสรุปเมื่อใด

"ถ้าทำไม่ทันภายใน 90 วัน ก็ขอยืดเวลาออกไปก็ได้ ไม่เป็นปัญหาอะไร"

เช่นเดียวกับปัญหาข้อสัญญาสัมปทานการให้บริการดาวเทียมของ บมจ.ไทยคม โดยเฉพาะประเด็นการยิงดาวเทียมดวงใหม่ เพื่อทดแทนดาวเทียมไทยคม 1 ที่หมดอายุไปเมื่อปีที่แล้ว รัฐมนตรีไอซีทีกล่าวว่า เอกชนจะเข้ามาหารือเพื่อหาทางออก หากได้ข้อยุติก็จะเสนอข้อสรุปให้ที่ ครม.พิจารณา ในทันที ซึ่งประเด็นที่มีการถกเถียงกันในขณะนี้คือหากต้องยิงดาวเทียมดวงใหม่เพื่อทดแทนดวงเดิมที่หมดอายุ ปกติดาวเทียมดวงใหม่มีอายุการใช้งานราว 20 ปี ขณะที่สัญญาสัมปทานกำลังจะหมดอายุในอีก 9 ปีข้างหน้า จึงต้องมีการพิจารณากันว่าต้องยืดอายุสัญญาให้เอกชนตามที่มีการยื่นข้อเสนอมาหรือไม่

"ทุกอย่างต้องคุยกันตามกรอบสัญญาสัมปทาน ถ้าสัปดาห์นี้ไม่ได้ข้อสรุป ก็สัปดาห์หน้า สัปดาห์ถัดไปก็คงได้ข้อสรุปเสนอเข้า ครม."



นายรักคุด 122

What next?

You can also bookmark this post using your favorite bookmarking service:

Related Posts by Categories